“Honda 0 Series” ยนตรกรรมไฟฟ้า Global EV Concept Model

Last updated: 27 ม.ค. 2567  |  113 จำนวนผู้เข้าชม  | 

honda_0 series-ces 2024 Global EV Concept Model

 ฮอนด้า แนะนำ “Honda 0 Series" (ฮอนด้า ซีโร่ ซีรีส์) ซีรีส์ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่เตรียมเปิดตัวทั่วโลกในปี พ.ศ.2569 นำโดยการเผยโฉม “Saloon” และ “Space-HubConcept model ของยนตรกรรมไฟฟ้า 2 รุ่นในซีรีส์ฯ


พร้อมเปิดตัวโลโก้ H Mark ใหม่ ที่จะนำไปใช้กับยานยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่ของฮอนด้าในอนาคต เป็นครั้งแรกในโลก ในงาน CES 2024 ณ ลาสเวกัส รัฐเนวาดาสหรัฐอเมริกา


ฮอนด้า ดำเนินธุรกิจภายใต้ Global Brand Slogan คือ The Power of Dreams – How we move you ที่สื่อความหมายว่า ฮอนด้าจะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนและบริการที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถ ก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ เช่น เวลาและสถานที่ และเพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสของผู้คน ด้วยผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนและบริการ พร้อมสนับสนุนความฝันของผู้คนให้กลายเป็นจริง และเป็นพลังที่ขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าต่อไป

 

 

นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านทุกผลิตภัณฑ์และกิจรรมที่บริษัทฯ ดำเนินการภายในปีพ.ศ.2593 พร้อมทั้งเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า ในการเพิ่มสัดส่วนการขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ทั่วโลกให้เป็น 100% ภายในปี พ.ศ. 2583


Honda 0 Series เป็นซีรีส์ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฮอนด้า ที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของฮอนด้าที่สอดคล้องกับ Global Brand Slogan และนโยบายด้านยานยนต์ไฟฟ้า โดยชื่อของซีรีส์แสดงถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้า ในการรับมือกับความท้าทายในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ใหม่ๆ


เสมือนการย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของฮอนด้าในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ และสรรค์สร้างยานยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจาก “ศูนย์” ซึ่งซีรีส์ยานยนต์ไฟฟ้าใหม่นี้ ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาแนวคิด “M/M concept” (Man Maximum, Machine Minimum) และการขับขี่ที่สนุกสนาน เพลิดเพลิน ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการผลิตรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง


รวมทั้งยกระดับความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น
โดยฮอนด้า จะเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นแรกภายใต้ “Honda 0 Series” ทั่วโลกในปี พ.ศ.2569 เริ่มจากอเมริกาเหนือ ต่อด้วยญี่ปุ่น ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา ทวีปตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ ตามลำดับ 


แนวคิด “man maximum, machine minimum” เป็นแนวคิดพื้นฐานในการออกแบบยนตรกรรมของฮอนด้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายในของตัวรถให้มีพื้นที่สำหรับผู้ใช้งานได้มากที่สุด และลดพื้นที่สำหรับเครื่องจักรให้เหลือน้อยที่สุด

 

แนวคิดเบื้องหลังของ “0” (Zero)


1. ประวัติศาสตร์ของฮอนด้า : จุดเริ่มต้นและก้าวที่ “ศูนย์” ของฮอนด้า ฮอนด้าจะสร้างจุดเริ่มต้นของเจเนอเรชันใหม่ โดยการย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของฮอนด้า ที่รวมถึงการเฟ้นหาแนวคิด M/M การขับขี่ที่สนุกสนานเพลิดเพลิน และความสุขและอิสระในการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮอนด้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด และจะยังคงยึดมั่นในแนวคิดนี้ต่อไป


2. การนำ Global Brand Slogan มาใช้ : ขับเคลื่อนหัวใจของผู้คนด้วยคุณค่าที่สร้างขึ้นจาก "ศูนย์"ฮอนด้า ขับเคลื่อนด้วย “ความฝัน” อยู่เสมอ และด้วย Global Brand Slogan "The Power of Dreams - How we move you" ฮอนด้าจะสร้างคุณค่าใหม่ที่ริเริ่มจากความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้น เพื่อที่จะมอบประสบการณ์ที่จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นวิธีที่ฮอนด้าขับเคลื่อนผู้คนรวมถึงหัวใจของพวกเขา


3. ความคิดริเริ่มในการตอบแทนสังคม : ความมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็น "ศูนย์"ฮอนด้า มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย “การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็นศูนย์” ให้สำเร็จ ตลอดอายุการใช้งานของยานพาหนะ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท และการสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุและลดการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ฮอนด้าทั่วโลกให้เป็นศูนย์


“บาง เบา ชาญฉลาด” (Thin, Light, Wise)


ในการพัฒนายนตรกรรมและคุณค่าใหม่ 5 ประการของยนตรกรรมไฟฟ้าของฮอนด้า การพัฒนา Honda 0 Series ทีมพัฒนาได้ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของฮอนด้า คิดทบทวนพิจารณาอีกครั้งว่ายนตรกรรมไฟฟ้าแบบไหนที่ฮอนด้าต้องการพัฒนาสำหรับยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง


โดยฮอนด้า มุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ให้แก่ยนตรกรรมไฟฟ้า ด้วยการก้าวข้ามข้อจำกัดของการเป็นรถที่ “หนาและหนัก” เนื่องจากต้องรองรับแบตเตอรี่ที่มาพร้อมความจุที่สามารถมอบระยะทางในการขับขี่ให้ได้มากพอ เช่นเดียวกับการที่ตัวถังและแพลตฟอร์มต้องสามารถรองรับกับความจุของแบตเตอรี่ได้ โดยฮอนด้า ได้ใช้แนวคิดใหม่ในการพัฒนายนตรกรรมไฟฟ้า ได้แก่ “บาง เบา และชาญฉลาด


บาง (Thin) : เพิ่มศักยภาพในการออกแบบ รวมถึงออกแบบตัวรถให้ต่ำ และการคำนึงถึงสมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์อันยอดเยี่ยม ด้วยการทำให้แพลตฟอร์ม EV “บาง” เพื่อทำให้ตัวรถต่ำลง


เบา (Light) : คำนึงถึงการขับขี่สไตล์สปอร์ตและสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ท้าทายความเชื่อของผู้คนที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์จากฮอนด้า ที่ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของฮอนด้าในฐานะผู้ผลิตรถยนต์


ชาญฉลาด (Wise) : คำนึงถึงยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์ดั้งเดิมของฮอนด้า โดยการผสานองค์ความรู้ที่ฮอนด้าสั่งสมมาจนถึงปัจจุบัน และการพัฒนายนตรกรรมให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัย


โดยยนตรกรรมไฟฟ้าของฮอนด้าจะได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามแนวคิดการพัฒนาข้างต้น และจะมาพร้อมโครงสร้างสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ ที่จะมอบคุณค่าหลัก 5 ประการ ดังนี้


1. การออกแบบที่งดงาม สะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่น

2. ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (AD/ADAS) ที่มอบความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการเดินทาง

3. “พื้นที่” ที่เป็นไปได้สำหรับผู้คนด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย

4. ความสนุกสนานในการขับขี่ ที่ทำให้ผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกับยานพาหนะ 

5. สมรรถนะของพลังงานไฟฟ้าที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพ


การออกแบบที่งดงาม สะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่นแนวคิดในการออกแบบ คือ “The Art of Resonance” ภายใต้ธีม “Resonance with the environment, society and users” หรือความสอดคล้องระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และผู้ใช้งาน ฮอนด้าจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน ที่สะกดทุกสายตาผู้คน และขยายความเป็นไปได้ในชีวิตประจำวันของผู้คน


ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (AD/ADAS) ที่มอบความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการเดินทาง เมื่อปี พ.ศ. 2564 ฮอนด้าได้นำเสนอการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 สู่การใช้งานจริง โดยได้เปิดตัว All-new Legend ที่มาพร้อมกับ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง อีลิท (Honda SENSING Elite) ที่นำเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีคุณสมบัติรองรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 (การขับขี่อัตโนมัติแบบมีเงื่อนไขในพื้นที่จำกัด)


โดยฮอนด้าจะนำเอาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS : Advanced Driver-Assistive System) ที่ใช้เทคโนโลยีของฮอนด้า เซนส์ซิ่ง อีลิท มาติดตั้งอยู่ใน Honda 0 Series เพื่อมอบประสบการณ์ของเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติให้แก่ลูกค้าทั่วโลก


นอกจากนี้ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 2020 ยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series จะมาพร้อมระบบการขับขี่อัตโนมัติ AD (Automated Driving) และจะนำเสนอยนตรกรรมไฟฟ้าที่มาพร้อมฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ระบบการขับขี่อัตโนมัตินี้ได้รับการพัฒนาตามแนวคิด “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง" ของฮอนด้า โดยระบบนี้จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูง 


เซนส์ซิ่ง เทคโนโลยีการตรวจจับการจดจำ/การตัดสินใจ และเทคโนโลยีการตรวจจับผู้ขับขี่เพื่อพัฒนาความสามารถให้ใกล้เคียงกับมนุษย์และเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ความเสี่ยงทั่วไปและความเสี่ยงสูง เพื่อนำเสนอฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติที่ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย โดยเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงดังกล่าว จะเพิ่มจำนวนของสถานการณ์การขับขี่อัตโนมัติให้สามารถใช้งานได้บนทางด่วน ในขณะที่ฟังก์ชันแบบแฮนด์ออฟ (Hands-off) บางฟังก์ชัน จะสามารถใช้งานบนถนนปกติได้ด้วย จากที่ปัจจุบันที่ใช้งานได้บนทางด่วนเท่านั้น 


พื้นที่” ที่เป็นไปได้สำหรับผู้คนด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่หลากหลายยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series จะมาพร้อมกับคุณค่าด้านความสนุกสนานในการขับขี่ ความสนุกในการใช้งาน และความสนุกในการเชื่อมต่อ ผ่านการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IoT และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบปฏิบัติการดั้งเดิมของรถยนต์ฮอนด้า


และด้วยความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Big Data จะทำให้รถสามารถจดจำความสนใจของผู้ขับขี่ เช่น เพลงที่ชอบ รวมถึงพฤติกรรมและแนวโน้มของผู้ขับขี่ขณะขับรถ และช่วยให้คำแนะนำได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ รถยนต์จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่โดยรอบและแนะนำเส้นทางจนถึงจุดหมายปลายทางแม้จะลงจากรถไปแล้ว


โดยรถยนต์จะมาพร้อมคุณสมบัติในการเข้าใจความรู้สึกของผู้ขับขี่ ยิ่งใช้รถมากเท่าใด ผู้ขับขี่ก็จะใกล้ชิดกับรถมากขึ้นเท่านั้น เพื่อส่งมอบความสนุกในการเชื่อมต่อ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจําวันของผู้คน


ความสนุกสนานในการขับขี่ ที่ทำให้ผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกับยานพาหนะยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและสมรรถนะตามแบบฉบับของฮอนด้า เพื่อส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ยุคใหม่ ยกระดับอารมณ์ความรู้สึกในการขับขี่สไตล์สปอร์ตและความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ทั้งร่างกายและจิตใจให้ดียิ่งขึน


นอกจากนี้ จากการผสานการออกแบบตัวรถของ Honda 0 Series ที่มีความต่ำ เข้ากับเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ของฮอนด้า เช่นเดียวกับที่ใช้ในกลุ่มมอเตอร์สปอร์ต ส่งผลให้สมรรถนะการขับเคลื่อน สมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์ และการออกแบบ ผสมกลมกลืนกันได้อย่างลงตัว


สมรรถนะของพลังงานไฟฟ้าที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และการพัฒนายนตรกรรมไฮบริดรุ่นต่างๆ ของฮอนด้าที่สั่งสมมา นำมาสู่สมรรถนะการขับเคลื่อนขั้นสูงจากพลังงานไฟฟ้า โดยยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series จะมาพร้อมกับ e-Axles ที่มาพร้อมความสามารถในการแปลงพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและรูปลักษณ์ที่ดีเยี่ยม


ชุดแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาและมีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม โดยมีเป้าหมายเพื่อมอบระยะทางการใช้งานที่เพียงพอ และในขณะเดียวกันก็ลดพื้นที่ในการติดตั้งแบตเตอรี่บนรถยนต์ให้เหลือน้อยที่สุด


นอกจากนี้ เพื่อลดความกังวลในเรื่องระยะเวลาในการชาร์จและการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่รถยนต์ไฟฟ้าเผชิญอยู่ ยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series จะมาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ปราศจากความกังวลเรื่องการชาร์จและลดการเสื่อมสภาพตลอดการใช้งานหลายปี


โดยยนตรกรรมภายใต้ Honda 0 Series ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 2020 จะมาพร้อมฟังก์ชันการชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ 15% ไปถึง 80% ด้วยเวลาประมาณเพียง 10-15 นาที


ในขณะเดียวกัน ฮอนด้า มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีควบคุมระบบแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงจากข้อมูลการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้ากว่า 1 ล้านคัน มาใช้ในการจำกัดการเสื่อมสภาพความจุของแบตเตอรี่ (ช่วงระยะ) ให้น้อยกว่า 10% หลังจากใช้งานไปแล้ว 10 ปี ระบบที่ประกอบด้วยมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และกระปุกเกียร์ ที่แปลงพลังงานไฟฟ้าให้เป็นแรงขับเคลื่อน

 

Concept Model ของ Honda 0 Series – Saloon และ Space-Hubซาลูน (Saloon) เป็นยนตรกรรม Flagship concept model ของ Honda 0 Series ซึ่งเป็นการผสมผสานแนวคิด “บาง เบา และชาญฉลาด” เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยความเฉพาะตัวของโครงสร้างสำหรับรถ EV จึงช่วยเปิดอิสระในการออกแบบให้กว้างขึ้น และยกระดับแนวคิด M/M ในยุคของยนตรกรรมไฟฟ้าให้เหนือไปอีกขั้น

 

 

การออกแบบตัวถังต่ำสไตล์สปอร์ต ทําให้ ซาลูน แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปตั้งแต่แรกเห็น ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและพื้นที่ภายในที่กว้างขวางมากกว่าที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอก


นอกจากนี้ แผงหน้าปัดยังมี Interface การเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร (HMI) ที่ใช้งานง่ายและสะดวก ช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยและไร้รอยต่อ ด้วยทัศนวิสัยสุดเร้าใจและระบบควบคุมที่ใช้งานง่าย ซาลูน จึงมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกสนาน เชื่อมโยงกับความรู้สึกของผู้ขับขี่

 

 

จากประสบการณ์อันยาวนานในการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ต้นแบบ ฮอนด้า มุ่งมั่นนำเสนอระบบควบคุมตามความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกสถานการณ์ของการขับขี่ ผ่านเทคโนโลยี steer-by-wire และการพัฒนาระบบเพิ่มความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ (Motion Management System)


รวมถึงระบบควบคุมท่าทางของผู้ขับขี่ ซาลูน ในฐานะที่เป็นยนตรกรรมรุ่น flagship ของ Honda 0 Series มุ่งมั่นสรรค์สร้างที่สุดของ "ความสนุกสนานในการขับขี่" ในยุค EV

 

 

นอกจากนี้ ยังมีการนำวัสดุที่มีความยั่งยืนมาใช้ทั้งภายในและภายนอก ทำให้ซาลูน เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เชื่อมโยงกับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมอย่างลงตัว

 



สเปซ-ฮับ (Space-Hub) ภายใต้แนวทางการออกแบบของ Honda 0 Series Space-Hub ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด เพิ่มพูน (augment) ชีวิตประจำวันของผู้คน ด้วยแนวทางการพัฒนา "บาง เบา และชาญฉลาด" ทำให้ สเปซ-ฮับ มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม พื้นที่ใช้งานมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงผู้คน สร้างพลังแห่งการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างกัน 

 

 

โลโก้ "H Mark" ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ที่มีการเปลี่ยนโฉมของโลโก้ในครั้งก่อน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการพัฒนาของยนตรกรรมไฟฟ้าเจเนอเรชันถัดไป ฮอนด้า จึงตัดสินใจออกแบบโลโก้ H Mark ใหม่ เพื่อเป็นตัวแทนของยนตรกรรมฮอนด้า ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลง


รวมถึงเจตนารมณ์ขององค์กรในการก้าวข้ามรากฐานเดิมของฮอนด้า และแสวงหาความท้าทายและความก้าวหน้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยโลโก้ใหม่นี้ เปรียบเสมือนมือสองข้างที่ยื่นออกไป แสดงถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าในการขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการเดินทาง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าฮอนด้าด้วยความจริงใจ

 

 

โดยโลโก้ H Mark ดีไซน์ใหม่นี้ จะถูกนำไปใช้กับยานยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันต่อไปของฮอนด้า รวมถึงยนตรกรรมใน Honda 0 Series ด้วย  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้