Last updated: 9 ม.ค. 2567 | 121 จำนวนผู้เข้าชม |
ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผู้นำนวัตกรรม InsurTech ของไทย เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรเพื่อความยั่งยืน ชูประเด็นรักษ์โลก ผ่านโครงการ “Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พร้อมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล
ล่าสุดจัดแคมเปญนำร่อง "เปลี่ยนเสื้อเก่า เป็นเสื้อใหม่" ผ่านยูนิฟอร์มของพนักงาน ที่ผลิตจากเสื้อผ้าเหลือใช้ด้วยนวัตกรรม พร้อมรณรงค์ลดปัญหาขยะจากเสื้อผ้าเก่าด้วยการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ในรูปแบบที่แตกต่าง
จีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เล่าว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลมาโดยตลอดกว่า 72 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ “คิดเผื่อ เพื่อทุกชีวิต” เพื่อให้คนไทยมีความมั่นคง ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยการนำนวัตกรรมด้าน
ประกันภัยมาปรับใช้จริง จึงเป็นที่มาในการจัดตั้งโครงการ “Greenovation” เปลี่ยนโลกด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมให้คนไทยสามารถเดินหน้าและขับเคลื่อนสังคมได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ภายใต้แคมเปญ “เปลี่ยนเสื้อเก่า เป็นเสื้อใหม่”ต้องการให้ยูนิฟอร์มเป็นตัวแทนสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่ให้ความสำคัญในการนำนวัตกรรมมาปรับใช้และเปลี่ยนโลก ซึ่งเป็นที่มาในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมด้านการประกันภัย เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้เชื่อว่าการพัฒนานวัตกรรมสู่ความยั่งยืนเป็นอีกเป้าหมายที่สำคัญ เพราะการพัฒนานวัตกรรมคือการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ บริการ รวมถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจให้สามารถสร้างผลกระทบที่ดีในระยะยาวต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้
ไทยวิวัฒน์จึงไม่หยุดยั้งในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมด้านประกันภัย เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในสังคมอย่างต่อเนื่อง
เทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ เล่าว่า สาเหตุสำคัญที่บริษัทฯ เลือกหยิบเรื่องของการลดขยะจากเสื้อผ้าเหลือใช้ มาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องความยั่งยืน เพราะต้องการจุดประกายและส่งเสริมให้คนไทยตระหนักและหันมาให้ความสำคัญจากเรื่องใกล้ตัว
โดยเริ่มต้นจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ในทุกๆวัน ซึ่งได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล ไล่เลียงตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ ทั้งการปลูกฝ้าย ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต ล้วนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปุ๋ย, ยาฆ่าแมลง และน้ำเสียจากการมัดย้อม ที่ปล่อยสู่ธรรมชาติ
ดังนั้นบริษัทฯจึงเริ่มต้นรณรงค์จากพนักงาน เชิญชวนเปิดกล่องบริจาคเสื้อผ้าเก่า นำกลับมารีไซเคิลใหม่ เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ในวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
สำหรับความพิเศษของยูนิฟอร์มใหม่ครั้งนี้ โชว์จุดเด่นด้วยการนำนวัตกรรมมาผลิตเสื้อผ้าจากวัตถุดิบที่มาจากรีไซเคิล 100% โดยเป็นการช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำสะอาด, ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO₂ จากการลดขั้นตอนการผลิต เช่น การปลูกฝ้ายใหม่ และกระบวนการฟอกย้อม รวมทั้งยังมีการใช้พลังงานหมุนเวียนจาก solar rooftop เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO
การรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เพียงแค่ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการกระทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญคือ ต้องร่วมสร้างและปลูกจิตสํานึก ให้ตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแคมเปญ “เปลี่ยนเสื้อเก่า เป็นเสื้อใหม่” เพื่อลดขยะจากผ้าที่ใช้แล้ว
นอกจากจะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับพนักงานของบริษัทฯกว่า 800 คน ได้ตระหนักรู้ถึงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยขยายผลไปยังครอบครัว และคนรอบข้างจำนวนมาก ยังเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อความยั่งยืนในด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พยายามขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย เช่น ประกันรถเปิดปิด ประกันรถยนต์รูปแบบใหม่ที่คิดค่าเบี้ยตามที่ใช้งานจริงที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IoT สามารถเปิดได้อัตโนมัติเพียงแค่สตาร์ทรถหรือดับเครื่องยนต์ ช่วยให้ประหยัดค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 80%
ประกันสุขภาพแอ็คทิฟเฮลท์ ที่สนับสนุนด้านการออกกำลังกาย โดยนำ Wearable Technology มาใช้เพื่อ Tracking นาทีการออกกำลังกายของผู้ใช้บริการเพื่อเป็นส่วนลดค่าเบี้ยในแต่ละเดือนสูงสุดถึง 40%
รวมถึงประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ พลัส เปิด-ปิด ที่สามารถจัดการทริปการเดินทางได้ด้วยตัวเอง รวมถึงเพิ่มลดวันเดินทางได้ด้วยตัวเอง วันเหลือสามารถเก็บไว้ใช้ทริปถัดไปได้ ผ่านแอปพลิเคชัน Thaivivat ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้โดยตรง
กรมธรรม์ในรูปแบบกระดาษอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งด้านความยั่งยืนที่บริษัทฯ ผลักดัน ไม่ใช่แค่เพื่อองค์กรฝ่ายเดียวแต่เพื่อสังคมด้วย
25 มิ.ย. 2567